ระบบบริหารคุณภาพ ISO/TS 16949 : 2009
มาตรฐานฉบับนี้ได้รับการพัฒนาจากรากฐานของระบบบริการคุณภาพที่ก่อให้กิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่การป้องกันการเกิดของเสีย และการลดความแปรปรวน รวมทั้งลดของเสียใน Supply Chain มาตรฐานฉบับนี้เขียนขึ้นมาโดยยึดข้อกำหนดจาก ISO 9001 เป็นพื้นฐาน และได้เพิ่มเติมข้อกำหนดเฉพาะต่าง ๆ ของทางลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์เข้าไปด้วย
มาตรฐาน ISO/TS 16949 ซึ่งประกอบด้วยมาตรฐาน ISO 9001 รวมกับข้อกำหนดเฉพาะสำหรับภาคยานยนต์จากมาตรฐานคุณภาพต่าง ๆ นั่นคือ VDA 6.1 ประเทศเยอรมัน EAQF ประเทศฝรั่งเศส และ AVSQ ประเทศอิตาลี ได้มุ่งให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าและพันธสัญญาในอันที่จะวางรากฐานสำหรับประเภทผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยกเว้น มาตรฐานนี้มีผลต่อองค์กรที่ผลิตหรือจัดหาชิ้นส่วนประกอบหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเยอรมัน ประเทศฝรั่งเศส ประเทศอิตาลี ประเทศอังกฤษ ประเทศญี่ปุ่นและอื่น ๆ
ขณะที่การนำระบบการบริหารงานคุณภาพไปปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งที่้องใช้เวลา และต้องประสบปัญหาต่าง ๆ แต่องค์กรต่าง ๆ ที่ได้รับการจดทะเบียนรับรองระบบก้อจะได้รับการพิจารณาให้มีมาตรฐานที่สูงกว่าและมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีกว่า การควบรวมข้อกำหนดระดับชาติต่าง ๆ ให้เป็นมาตรฐานเพียงมาตรฐานเดียวทำให้หมดปัญหาเรื่องความต้องการที่ต่างกัน และในมุมกลับกันก้อจะสามารถขจัดปัญหาเรื่องความสิ้นเปลืองอันเนื่องมาจากการใช้มาตรฐานคุณภาพมากกว่า 1 มาตรฐาน
ผู้ประกอบการด้านยานยนต์ซึ่งบรรลุการประยุกต์ใช้มาตรฐาน ISO/TS 16949 ต้องมีความสอดคล้องกับมาตรฐาน ISO 9001 ทั้ง 23 องค์ประกอบ รวมกับข้อกำหนดเฉพาะสาบาที่ระบุความจำเป็นสำหรับผู้ผลิตยานยนต์ ผู้ผลิตเหล่านี้จำเป็นต้องร้องขอให้ผู้ขาย/ผู้ส่งมอบของตนบรรลุข้อกำหนดเฉพาะสาขาตามความจำเป็นสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ด้วย
ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการด้านรถยนต์จำนวนหลายพันบริษัทที่ได้รู้สึกแล้วถึงผลจากข้อกำหนดของมาตรฐาน ISO/TS 16949 แม้ว่ามาตรฐานด้านยานยนต์ระดับชาติมาตรฐานเก่ายังคงอยู่ใรกระบวนการถ่ายโอน เนื่องจากมาตรฐานเหล่านั้นไม่ได้รับการแก้ไขให้สอดรับกับมาตรฐาน ISO 9001 ด้วยเหตุนี้ มาตรฐาน ISO/TS 16949 จึงจะเข้ามาแทนที่มาตรฐานเก่าเหล่านั้น
หลักการของการบริหารงานคุณภาพ มี 8 ประการ
- การให้ความสำคัญกับลูกค้า (Customer Focus)
- ความเป็นผู้นำ (Leadership)
- การมีส่วนร่วมของบุคลากร (Involvement of People)
- การบริการเชิงกระบวนการ (Process Approach)
- การบริหารที่เป็นระบบ (System Approach)
- การรปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continual Improvement)
- การตัดสินใจบนพื้นฐานความเป็นจริง (Factual Approach to Decision Making)
- ความสัมพันธ์กับผู้ขายเพื่อประโยชน์ร่วมกัน (Mutually Beneficial Supplier Relationship)
ประโยชน์ที่ในการนำมาตรฐาน ISO/TS 16949 : 2009 มาใช้กับองค์กรพอสรุปได้ดังนี้ ได้รับภายในองค์กร
- เพิ่มคุณภาพของสิ้นค้า
- เพิ่มประสิทธิผลของกระบวนการ
- ช่วยเพิ่มสัดส่วนทางการตลาด และเพิ่มภาพลักษณ์ของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
- เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า
- เพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน ขนส่ง และกระบวนการให้ดียิ่งขึ้น
- เพิ่มประสิทธิผลด้านการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร
ที่มา : http://www.qatthailand.com/ISOTS%2016949.html
No comments:
Post a Comment